Account คือระบบบัญชีทั่วไปที่องค์กรใช้ในการดำเนินธุรกรรมประจำวัน
ระบบบริหารงานธุรกิจ (Financial Management System) ประกอบด้วย
ระบบบัญชี (General Ledger System)
ระบบบัญชีเป็นระบบที่รองรับรายการต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการต่างๆ ทางธุรกิจ ซึ่งท่านสามารถกำหนดข้อมูลพื้นฐานทางบัญชีได้ตามโครงสร้างของบริษัทและผังบัญชีของบริษัท ซึ่งรายการทางบัญชีจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อมีการทำธุรกรรมต่างๆ ในแต่ละระบบงาน และระบบบัญชีจะรองรับการคำนวณสินค้าคงคลังทั้งแบบ Periodic และ Perputual รวมถึงอัตโนมัติคำนวณค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์และสินค้าคงคลังด้วย
ระบบซื้อ / ระบบขาย (Purchase System / Sale System )
ระบบลูกหนี้ ( Account Receivable System )
ระบบเจ้าหนี้ ( Account Payable System )
ระบบสินค้าคงคลัง ( Inventory System )
ระบบการจัดการเงินสด (Cash Management System)
ระบบงบประมาณ (Budgeting System)
ระบบสินทรัพย์ถาวร (Fixed Asset System)
ระบบผู้บริหาร (Executive Decision System)
ระบบบริหารงานบุคคล ประกอบด้วย:
1. ระบบการจัดการบุคลากร (Personal Management)
2. ระบบการประเมินและวางแผนกำลังคน (Career and Evaluation Management)
3. ระบบการสรรหาพนักงาน (Recruitment Management)
4. ระบบการฝึกอบรม (Training Management)
5. ระบบการจัดการเงินเดือน (Payroll Management)
6. ระบบสวัสดิการ (Benefits and Welfare Management)
ระบบการจัดการบุคลากร (Personal Management)
ระบบการจัดการบุคคลเป็นระบบที่จัดการเกี่ยวกับข้อมูลของพนักงาน ประวัติการทำงาน การเลื่อนหรือเปลี่ยนแปลงตำแหน่งงาน สวัสดิการที่พนักงานได้รับ ความสามารถในการทำงานของพนักงาน ซึ่งระบบได้เปิดโอกาศให้บริษัทสามารถกำหนดหน้าที่ การทำงานให้กับพนักงานในแต่ละตำแหน่งหน้าที่หรือบุคคลรวมถึงการจัดการเกี่ยวกับ ระเบียบและนโยบายต่างๆ ในบริษัท
ระบบบันทึกเวลาเป็นระบบที่เก็บรวบรวมข้อมูลของพนักงานแต่ละคนเกี่ยวกับเวลาการเข้า- ออกงาน การลา ซึ่งระบบดังกล่าวจะทำงานร่วมกับระบบการจัดการบุคคล ระบบสวัสดิการและ เงินเดือน โดยการส่งข้อมูลเพื่อบันทึกเป็นประวัติของพนักงานและคำนวณเงินเดือนอันเกิด จากการขาดงาน สาย รวมถึงค่าล่วงเวลา
ผู้ใช้สามารถกำหนดวันหยุดต่างๆ จำนวนวันที่อนุญาตให้ลาได้ ประเภทการลา ตาราง การทำงานขององค์กร กลุ่มของฟังก์ชันของการรักษาความปลอดภัยในการเข้าสู่ระบบได้ตาม กลุ่มพนักงานหรือแต่ละบุคคล สามารถรองรับตามเงื่อนไขต่างๆ ที่กำหนดเช่นตารางเวลา การทำงานขององค์กร ตามวันหยุด ตามการขออนุมัติและการอนุมัติการลาผ่านระบบคอมพิวเตอร์
ผู้ใช้สามารถสร้างรายงานหรือเลือกแสดงรายงานแบบสรุป/ รายละเอียด ตามช่วงวันที่ รูปแบบ ความต้องการของผู้ใช้ ข้อมูลการลา ตารางเวลาการทำงาน และตามการขออนุมัติและ การอนุมัติการลา โดยเลือกข้อมูลจากพนักงานทั้งหมด การลาทุกประเภท หรือตามแต่ละแผนกก็ได้
ระบบบันทึกเวลาช่วยให้สามารถวางแผนตารางการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงแผนการผลิตต่างๆ โดยให้ระบบช่วยสร้างตารางการทำงานให้กับแผนกบริหารงานบุคคล อัตโนมัติ
ระบบจะตรวจสอบเวลาการทำงานปกติ และกำหนดเงินโบนัส ค่าล่วงเวลา และประเภทของเงินเดือนเพื่อโอนข้อมูลไปยังระบบเงินเดือนให้อัตโนมัติ
สามารถสร้างและแก้ไขโครงสร้างผังองค์กรได้ ทั้งในส่วนของผังตามแผนก ตำแหน่ง และลักษณะงาน พร้อมทั้งกำหนดรายละเอียดของแต่ละตำแหน่งโดยแสดงผังองค์กรที่สร้างขึ้น ในลักษณะของ Tree ทั้งนี้ผู้ใช้สามารถกำหนดพนักงานสำหรับแต่ละตำแหน่งงานได้
นอกจากนี้ระบบจะแก้ไขผังองค์กรให้โดยอัตโนมัติเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในแต่ละ ตำแหน่งงาน รวมถึงอนุญาตให้ผู้ใช้กำหนดงบประมาณในแต่ละแผนกตามระดับต่างๆ เช่น ระดับงาน ตำแหน่งงาน หรือกำหนดรวมทั้งหมดก็ได้
ระบบการจัดการองค์กรสามารถคัดเลือกพนักงานหรือผู้สมัคร ให้ตรงกับตำแหน่งงานที่มี ความต้องการ โดยดูจากคุณสมบัติที่กำหนด รวมถึงการประเมินผลจากการฝึกอบรม และเมื่อมีปรับเปลี่ยนตำแหน่งงานในผังองค์กรระบบจะปรับเปลี่ยนแผนงานของระบบบริหาร บุคคลและกระบวนการรับสมัครพนักงานให้อัตโนมัติ
ระบบการจัดการองค์กรมีผลต่อแผนงานการจัดการต้นทุนของการบริหารงานบุคคล และมีผลต่อโครงสร้างของผังองค์กร โดยได้เตรียมหัวข้อสำหรับการจัดการเกี่ยวกับต้นทุน ของบริษัท วิเคราะห์ระบบต้นทุน ทางเลือกและผลกระทบต่อพนักงานทั้งหมดเมื่อมีการ เปลี่ยนแปลงต้นทุน วิเคราะห์ความเป็นไปได้ของแผนงาน
ระบบการจัดการค่าใช้จ่ายในการเดินทางเป็นระบบที่ช่วยตรวจสอบความถูกต้องแน่นอนของ ข้อมูลสำหรับค่าใช้จ่ายในการเดินทางของพนักงานในแต่ละโครงการ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเดินทางระหว่างประเทศสำหรับองค์กร
พนักงานสามารถตรวจสอบค่าใช้จ่ายในการกำหนดการทำงานในต่างประเทศ
บันทึกค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าใช้จ่ายที่ต้องสำรองจ่ายล่วงหน้า ค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายคืนให้กับพนักงานเมื่อพนักงานสำรองจ่ายไปก่อน รวมถึงเบี้ยเลี้ยงของพนักงาน
พนักงานสามารถกำหนดแผนการเดินทางได้โดยกำหนดวัตถุประสงค์ กำหนดเส้นทางที่ดีที่สุดทั้งในเรื่องการเดินทาง ค่าใช้จ่าย พนักงานสามารถคำนวณค่าใช้จ่ายที่ต้องเบิกล่วงหน้า
พนักงานสามารถจองตั๋วเครื่องบิน รถไฟ รถรวมถึงโรงแรม รถเช่าหรืออื่นๆ ได้
ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นสามารถส่งข้อมูลไปยังระบบเงินเดือน ระบบเจ้าหนี้ ได้อัตโนมัติ
ระบบสามารถประเมินความสามารถในการทำงานของบุคคลร่วมกันกับตำแหน่งงาน ลักษณะงาน โครงงาน และความสัมพันธ์กับส่วนอื่นๆ
สามารถวิเคราะห์ช่องว่างระหว่างบุคคลกับงาน ตำแหน่งงาน หรือโครงงาน
สามารถแสดงลักษณะระดับของบุคคลตามกลุ่มความสามารถ
ทำงานร่วมกับระบบ Career and Succession Planning และการฝึกอบรม เพื่อช่วย วิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนของพนักงาน เพื่อช่วยในการพัฒนาความสามารถบนพื้นฐานที่มี อยู่ของแต่ละคน
สามารถขอรับการฝึกอบรมสำหรับพนักงานตามความสามารถของพนักงาน
สามารถประเมินความสามารถตามกลุ่มการประเมินได้แก่ ความสามารถพิเศษ การวิเคราะห์ พื้นฐานทางสังคมและคุณสมบัติตามความต้องการของบริษัท
สามารถกำหนดคุณสมบัติ คุณวุฒิตามลักษณะงานและบุคคลในบริษัท
สามารถประเมินและเปรียบเทียบคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ตามระดับความสามารถ
สามารถตรวจสอบสถานะคุณวุฒิและความสามารถของพนักงานได้ทุกเวลา
กำหนดแผนงานการทดสอบความรู้เพื่อช่วยเตรียมพนักงานสำหรับงานใหม่ สำหรับการพัฒนาองค์กร
ใช้เป็นพื้นฐานในการกำหนดเส้นทางของการทำงาน รวมถึงทางเลือกอื่นๆ
ช่วยให้พนักงานมีเป้าหมายของอาชีพของตน พร้อมทั้งช่วยประเมินจุดแข็งของพนักงาน
สร้างผังลำดับขั้นของตำแหน่งงานรวมทั้งพนักงานทั้งภายในและภายนอกที่ประสบความสำเร็จ ตามแผนงาน
ช่วยสร้างแผนงานที่ยืดหยุ่นและเป็นเครื่องมือในการควบคุม ประเมินต้นทุนที่เกิดจาก พนักงานและสถานการณ์ของบริษัท เพื่อช่วยในการตัดสินใจตามนโยบายของบริษัท
การนำแผนงานต่างๆ ไปใส่ในตำแหน่งต่างๆ จะส่งผลในทันทีเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงผัง องค์กรและสามารถค้นหาผู้มีความสามารถและจัดการกับตำแหน่งที่ว่างจากแผนงานที่มีอยู่
สามารถเตรียมแผนงานสำหรับจำนวนและคุณสมบัติของพนักงานในอนาคต
ช่วยกระตุ้นให้พนักงานแสดงความสามารถในการพัฒนางานที่สัมพันธ์กันและความสามารถของตนเอง
ระบบการสรรหาพนักงาน ( Recruitment Management )
ช่วยให้กระบวนการรับสมัครพนักงานสามารถคัดเลือกผู้สมัครที่มีคุณภาพเหมาะสมกับตำแหน่งงาน ที่ต้องการทั้งข้อมูลจากทั้งภายในและภายนอก
สามารถกำหนดตารางการสัมภาษณ์ แสดงผลการสัมภาษณ์ ดูสถานะของผู้สมัคร และสถานะในการ สรรหาพนักงาน ค่าใช้จ่ายในการสรรหาพนักงาน
ระบบการสรรหาพนักงานช่วยในการคัดเลือกและรับบุคคลที่ตรงกับความสามารถที่ต้องการและ ให้ความสนับสนุนเพื่อให้เกิดความสำเร็จในบริษัทและช่วยให้บริษัทมีนโยบายในการสรรหา พนักงานที่ก่อให้เกิดประโยชน์ที่สุดและลดค่าใช้จ่ายในการบริหารลงได้
ผู้สมัครสามารถตรวจสอบสถานะได้ตลอดเวลา
สามารถให้ข้อมูลพื้นฐานสำหรับแผนกบริหารงานบุคคลใช้ในการตัดสินใจ
สามารถค้นหาข้อมูลที่ตรงกันระหว่างคุณสมบัติของผู้สมัครกับคุณสมบัติของตำแหน่งงาน ที่ความต้องการ
มีรายงานแสดงสถานะทุกกระบวนการในการสรรหาพนักงานเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการช่วย ตัดสินใจของผู้บริหารและแสดงสถานะของใบสมัครแต่ละใบ
ระบบจะโอนย้ายข้อมูลจากระบบการสรรหาพนักงานไปยังระบบการจัดการบุคคลให้อัตโนมัติ เมื่อมีการรับพนักงานใหม่
ระบบการฝึกอบรม (Training Administration)
ช่วยกำหนดตารางการฝึกอบรมตามระดับงาน และกำหนดสิ่งที่ใช้ประกอบการฝึกอบรมอื่นๆ
เก็บข้อมูลของการฝึกอบรมต่างๆ เช่น ผู้สอน หลักสูตรการสอน
ตรวจสอบหลักสูตรที่มีการฝึกอบรม การประเมินผล
สามารถกำหนดงบประมาณค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมสำหรับพนักงานแต่ละระดับ และเปรียบเทียบประมาณการและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
รองรับแผนงานการฝึกอบรมและการประเมินผลการฝึกอบรม
รองรับหลักสูตรการฝึกอบรมทั้งภายในและภายนอกเพื่อการฝึกอบรมที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
กำหนดรายละเอียดโปรแกรมการฝึกอบรมทั้งในระยะสั้นและระยะยาวสำหรับพนักงาน
สร้างโปรแกรมการฝึกอบรมสำหรับผู้รับการฝึกอบรมรวมถึงการประเมินผล
เก็บข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่มีความจำเป็นสำหรับการฝึกอบรม วัตถุประสงค์ หัวข้อ และตารางเวลาในการฝึกอบรม ราคา จำนวนผู้เข้ารับการฝึกอบรมและสถานที่ในการฝึกอบรม
แผนการฝึกอบรมเป็นเครื่องมือในการเตรียมข้อมูลต่างๆ โดยอัตโนมัติเช่น อุปกรณ์ ผู้สอน สถานที่เรียน
รองรับระบบ Billing, Cost Allocation และงบประมาณ
มีฟังก์ชันที่ช่วยในการจองห้อง การยกเลิก เพื่อการฝึกอบรม
มีฟังก์ชันช่วยในการประเมินราคาของผู้สอน อุปกรณ์ในการฝึกอบรม ค่าโฆษณา ค่าเช่าห้องฝึกอบรมและอุปกรณ์ในการฝึกอบรม รวมถึงสามารถการกำหนดเกณฑ์ในการตัดสินใจของแต่ละการประเมินราคา
สามารถ Allocation Cost ของการฝึกอบรมภายในและภายนอกได้
ระบบเงินเดือน (Payroll Management)
สามารถตรวจสอบและดูข้อมูลรายได้ ส่วนหัก ยอดเงินสะสมได้ด้วยระบบ Online
สามารถตรวจดูข้อมูลตามสกุลเงินต่างๆ ที่ต้องการ
ติดต่อกับกระบวนการจ่ายชำระ โดยสามารถจ่ายชำระได้ด้วยเงินสด เช็ค หรือโอนเงิน ผ่านธนาคาร และ สร้างเอกสารใบสำคัญจ่ายส่งไปยังระบบเจ้าหนี้ให้อัตโนมัติ ในรูปแบบข้อมูลแบบสรุปเนื่องจากข้อมูลระบบเงินเดือนเป็นข้อมูลที่ต้องมีความปลอดภัยสูง ดังนั้นผู้ที่จะประมวลผลข้อมูลดังกล่าวได้ต้องมีระดับสิทธิที่สูง และเข้าดูได้เฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงจำนวนพนักงานและต้นทุนในการจัดการระบบจะปรับปรุงข้อมูลแผนงาน ของระบบเงินเดือนจะทันสมัยอยู่เสมอ
สามารถประมาณการการจ่ายเงินเดือนได้โดยดูจากสถานะทางกายภาพต่างๆ เช่นสถานที่ตั้ง สกุลเงินเพื่อใช้เป็นเงื่อนไขในการจัดการเกี่ยวกับระบบเงินเดือนเช่นการจ่ายเงินเดือน ในแผนกเดียวกันแต่ต่างสกุลเงินกัน เป็นต้น
สามารถประมวลผลเพื่อดูข้อมูลต่างๆได้เช่นการจ่ายเงินเดือนประจำปี ประวัติการขึ้นเงินเดือนและประวัติการจ่ายเงินเดือน เป็นต้น
สามารถกำหนดประเภทค่าชดเชยต่างๆ ได้โดยอิสระเช่นโบนัส คอมมิชชั่น รางวัลพิเศษ
สามารถกำหนดการจ่ายค่าชดเชยเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม
ค่าชดเชยเป็นส่วนหนึ่งของระบบงบประมาณ ระบบจะปรับปรุงค่าชดเชยเพื่อใช้ในการเปรียบเทียบงบประมาณให้อัตโนมัติ หรือสามารถกำหนดในระบบงบประมาณโดยกำหนดเป็นหนึ่งระดับหรือหลายระดับก็ได้
ระบบจะคำนวณค่าชดเชยทั้งหมดให้อัตโนมัติและส่งข้อมูลไปยังระบบเงินเดือนและระบบบัญชี
สามารถกำหนดแผนงานในการจ่ายค่าชดเชยได้อย่างอิสระเช่นกำหนดการจ่ายค่าชดเชยโดยขึ้น อยู่กับเงินเดือนที่ได้รับ รวมถึงช่วงเวลาที่จะจ่ายค่าชดเชย
ระบบสวัสดิการ (Benefit Welfare Management)
สามารถกำหนดเงื่อนไขของสวัสดิการในด้านสุขภาพและความปลอดภัย
สามารถติดต่อกับบริษัทประกันภัยและส่งข้อมูลระหว่างกันเมื่อมีการ Claim และบันทึกประวัติการเคลมของพนักงานเช่นเนื่องจากการป่วย อุบัติเหตุ
สามารถกำหนดแผนงานสวัสดิการของพนักงาน
ระบบจะคำนวณค่าชดเชยทั้งหมดให้อัตโนมัติและส่งข้อมูลไปยังระบบเงินเดือนและระบบบัญชี
ระบบบริหารงานโรงงาน ประกอบด้วย:
1. ระบบวางแผนผลิต (Planning Management)
2. ระบบการผลิต (Production Management)
3. ระบบควบคุมคุณภาพ (Quality Control Management)
4. ระบบการป้องกันและแก้ไข (Preventive and Corrective Management)
5. ระบบการสอบเทียบเครื่องมือ (Calibration System)
6. ระบบต้นทุน (Cost Accounting)
ระบบวางแผนผลิต (Planning Management)
เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเตรียมข้อมูลโดยเพื่อช่วยในการตัดสินใจในการวางแผน และก่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุดสำหรับการผลิต ดังนี้
ระบบจะแสดงแผนภาพในการผลิตเพื่อช่วยให้ผู้วางแผนสามารถมองเห็นภาพรวมของการผลิต ในกรณีที่การผลิตสินค้าบางประเภทมีความซับซ้อนมาก นอกจากนี้ยังสามารถเลือกหรือลงไป ดูในรายละเอียดของระดับย่อยๆ ได้อีกด้วย
ระบบจะเชื่อมโยงกับระบบสินค้าคงคลังเพื่อช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ที่ช่วยในการผลิตเช่นปริมาณวัตถุดิบที่จะใช้ในการผลิต ความพร้อมของอุปกรณ์ เครื่องใช้ในการผลิต ซึ่งถ้าระบบพบว่ามีสิ่งใดไม่พร้อมระบบจะมีการเตือนให้กับ ผู้วางแผนการผลิตทราบเพื่อเปลี่ยนแปลงแผนการผลิต ทั้งนี้ระบบยังสามารถแจ้งได้ว่า ถ้าต้องมีการสั่งซื้อวัตถุดิบต่างๆ แล้วจะต้องใช้เวลาเท่าไร เพื่อช่วยในการวางแผนการผลิตทำให้สามารถประมาณการผลผลิตที่จะผลิตได้อย่างแน่นอน
- ระบบจะนำข้อมูลในส่วนต่างๆ มาร่วมในการวางแผนการผลิตเช่น ข้อมูลการตลาด การขาย แผนกประสานงานขาย ผู้ขายวัตถุดิบ
- นำขั้นตอนในการผลิตสินค้ามาช่วยในการวางแผนการผลิตเช่น วัตถุดิบทดแทน ขั้นตอนที่ทดแทนกันได้
- กำหนดแผนการโปรโมชั่นมาช่วยในการวางแผนการผลิตเช่น การตรวจสอบ ขั้นตอนการผลิต วัตถุดิบและอุปกรณ์ ในการผลิตตามประเภทสินค้าที่จัดโปรโมชั่น
- ประมาณการสินค้าใหม่ที่จะเกิดขึ้น โดยประมวลผลดูจากความสามารถในการผลิต ปริมาณสินค้าที่ผลิต
- นำหลักสถิติมาช่วยในการวิเคราะห์หาสาเหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการผลิต
มีการสร้างรูปแบบจำลองในการผลิตโดยดูจากความเป็นไปได้ของส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเช่นระบบซื้อ เพื่อจัดซื้อวัตถุดิบและอุปกรณ์ในการผลิต ระบบโรงงานเพื่อตรวจสอบความพร้อมของเครื่องจักรและอุปกรณ์ในการผลิต ระบบสินค้าคงคลังเพื่อตรวจสอบดูปริมาณวัตถุดิบที่ใช้ว่าเพียงพอหรือไม่ รวมถึงความต้องการของลูกค้า ซึ่งการวิเคราะห์ดังกล่าวจะต้องใช้ระบบ Expert System มาช่วยในการวิเคราะห์เพื่อให้การวางแผนเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
ระบบจะนำสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการผลิตทั้งหมดมาเป็นเงื่อนไขในการวางแผนการผลิต และออกตารางการผลิตเพื่อความสามารถในการใช้ทรัพยากรในการผลิตให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
- สามารถปรับเปลี่ยนตารางการผลิตได้ตลอดเวลา
- สามารถวางแผนการผลิตได้ละเอียดถึงความสามารถของเครื่องและวัตถุดิบ
- ระบบมีการเลียนแบบเงื่อนไขต่างๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อช่วยในการพิจารณาถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
- สามารถดูรายงานการผลิตได้ในลักษณะของ Chart หรือ Tree
ในการวางแผนการผลิต ระบบจะตรวจสอบเงื่อนไขต่างๆ เสมอ เพื่อให้การส่งสินค้าตรงกับที่กำหนดไว้ โดยดูจาก
- ถ้าวัตถุดิบหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตมีไม่เพียงพอ ระบบจะเลือกวัตถุดิบทดแทนให้อัตโนมัติ
- ช่วยเลือกบริษัทที่สามารถยืมหรือซื้อวัตถุดิบหรืออุปกรณ์ที่ใช้ ในการผลิตเมื่อวัตถุดิบหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตมีไม่เพียงพอ
- ช่วยท่านเลือกบริษัทที่สามารถยืมหรือซื้อวัตถุดิบหรืออุปกรณ์ที่ ใช้ในการผลิตเมื่อวัตถุดิบหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตมีไม่เพียงพอ
- ช่วยในการจัดสรรทรัพยากรในการผลิตให้เกิดประโยชน์มากที่สุดโดยดู จากองค์ประกอบต่างๆ เช่นลูกค้า ตลาด คำสั่งซื้อ ฯลฯ
เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการพัฒนาความสามารถในการผลิต เพิ่มผลผลิต ลดขั้นตอนในการผลิต ลดค่าล่วงเวลา และ ใช้ทรัพยากรของบริษัทให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า ซึ่งจะเป็นตัวช่วยในการเพิ่มผลผลิตและพัฒนาคุณภาพสินค้าของลูกค้า
เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการแก้ไขปัญหาในระหว่างการผลิตโดยการท่านสามารถกำหนด. เงื่อนไขที่เปลี่ยนแปลงได้เอง
เป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนการผลิตและออกตารางรายละเอียดการผลิตสินค้า
- ช่วยในการกำหนดเครื่องมือ ทรัพยากร ที่ใช้ในการผลิตได้รวดเร็วและถูกต้องต่อกระบวนการผลิต
- ช่วยสร้างแผนการผลิตได้จากเงื่อนไขต่างๆ ที่กำหนดไว้โดยอัตโนมัติ
- ช่วยในการวางแผนการผลิตได้อย่างต่อเนื่องตามสภาวะต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลง และรองรับการผลิตที่ซับซ้อนในสภาวะที่แตกต่างกัน
เป็นระบบที่ใช้สำหรับการกำหนดคุณสมบัติพื้นฐานและค่ามาตรฐานในการตรวจสอบและบำรุง รักษาสินค้าเพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ ทั้งนี้รวมถึงการเก็บประวัติของการตรวจสอบ คุณภาพต่างๆ ไว้เพื่อช่วยในการพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์และแก้ปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพของ สินค้า
เป็นระบบที่ใช้ในการกำหนดตารางเวลาของการบำรุงรักษาเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ เช่น เครื่องจักร คอมพิวเตอร์ โดยระบบจะมีการเตือนเมื่อถึงวันที่กำหนด ตรงตามเงื่อนไข วันที่รับประกัน หรือวันที่หมดอายุ ระบบจะเก็บบันทึกข้อมูลและประวัติของการบำรุงรักษาเครื่องมือเครื่องใช้ รวมถึงการกำหนดค่ามาตรฐานของเครื่องจักรสำหรับการบำรุงรักษา
เป็นระบบสำหรับการตรวจสอบเครื่องมือวัดให้อยู่ในระดับที่มาตรฐานสามารถรองรับได้ ระบบจะอนุญาตให้ท่านกำหนดแผนงานของการสอบเทียบ เก็บบันทึกข้อมูลและประวัติของการสอบเทียบเครื่องมือวัดแต่ละประเภท พร้อมทั้งการเปรียบเทียบค่าของเครื่องมือวัดกับค่ามาตรฐาน เมื่อมีการสอบเทียบเครื่องมือวัดด้วยตัวเอง
เป็นระบบที่ให้ควบคุมต้นทุนต่างๆ ที่เกิดขึ้นในบริษัท โดยข้อมูลและสินค้าจะมี ความสัมพันธ์เป็นแบบ Parent & Child กับข้อมูลทางการเงินเพื่อใช้ในการจัดระดับ ของรายละเอียด ในแต่ละระดับจะสามารถออกรายงานเปรียบเทียบต้นทุนที่เป็นประมาณการและ ต้นทุนที่ใช้ไป ซึ่งการบันทึกต้นทุนที่เกิดขึ้นสามารถบันทึกเป็น Cost Center, Project หรืออื่นๆ แล้วแต่ผู้ใช้
ECP (Enterprise Commerce Planning) คือระบบการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์ในการทำธุรกิจ ทั้งในรูปแบบของการตลาด (Marketing หรือในแง่ของการสร้างภาพลักษณ์ขององค์กร - Community) และ การทำธุรกิจ (Business หรือในแง่ของการซื้อขาย - Transaction)
ECP เป็นระบบที่อยู่ในส่วนของการวางแผนและกำหนดนโยบายและเงื่อนไขของระบบลูกค้า สัมพันธ์ (CRM-Customer Relation Management)
ตัวอย่างการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์ในรูปแบบของการตลาด (Marketing - Community) เช่นการวางนโยบายในการขายที่มีทั้งการขายปลีกและการขายส่ง ให้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของลูกค้าแต่ละรายที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะก่อให้เกิดผลดีทีสุดและความรู้สึกที่ดีต่อองค์กร
หมายถึงโปรแกรมสำหรับการบริการ สำหรับการทำธุรกรรมภายในองค์กร ซึ่ง รองรับระบบงาน ERP (Enterprise Resource Planning) และเป็นเสมือนศูนย์กลางของ บริษัทและการทำธุรกรรมต่างๆ
ประกอบด้วย
1. ERP ( Enterprise Resource Planning )
เป็นโปรแกรมสำหรับการทำธุรกรรมตามปกติของของทุกธุรกิจ เพื่อใช้ในการควบคุม งบประมาณ ซึ่งประกอบด้วย ระบบการเงิน ( Financial Management System ), ระบบบริหารงานบุคคล ( Human Resource Management System ), ระบบบริหารการผลิต ( Manufacturing Management System ) และระบบลูกค้าสัมพันธ์ ( CRM: Customer Relation Management ) ซึ่งข้อมูลต่างๆ จะถูกเชื่อมโยงกันด้วยขั้นตอนในการดำเนินธุรกิจ
2. Virtual Office Park ( สำนักงานเสมือนจริง )
หมายถึงการเตรียม JiniCommerce.Com ให้เป็นสำนักงานเสมือนจริง สำหรับบริษัทที่ ต้องการทำธุรกิจบน Internet รวมถึงการบริการ สำหรับการทำธุรกรรมหลายๆ ประเภท โดยไม่ จำเป็นต้องมีสถานที่ตั้งบริษัทที่แท้จริง เนื่องจากระบบงานบน JiniCommerce.Com จะ ทำหน้าที่เป็น เลขานุการ ในการติดตามงานในแต่ละขั้นตอน ส่งข้อมูลต่างๆ ที่เกิดขึ้นใน แต่ละกระบวนการไปยังลูกค้าหรือผู้เกี่ยวข้อง เช่น ลูกค้าจะทราบได้ทันทีว่า สินค้าที่ สั่งซื้อมีกำหนดส่งเมื่อไร มีการตรวจสอบวงเงินเครดิตของลูกค้าทันที นอกจากนี้ในกรณีที่ทางบริษัทไม่สามารถส่งของได้ทันตามกำหนดส่งระบบสามารถส่ง e-mail แจ้งไปยังลูกค้าทราบทันทีเมื่อระบบพบว่าสถานะมีการเปลี่ยนแปลง
นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นพนักงานบัญชี มีการตรวจสอบวงเงินเครดิตของลูกค้าทันที และผู้จัดส่งสินค้าไปพร้อมกันด้วย เนื่องจากการทำธุรกรรมต่างๆ จะมีการเก็บข้อมูลและ ส่งข้อมูลต่อไปยังระบบบัญชีให้อัตโนมัติ รวมถึงการส่งข้อมูลไปยังบริษัทที่เกี่ยวข้อง เช่นบริษัทที่ทำหน้าที่ในการจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าเพื่อดำเนินการในการจัดส่งสินค้า อีกทอดหนึ่ง
JiniCommerce.Com ได้เตรียมพนักงานประสานงานการขายเพื่อเป็นศูนย์กลางของงานด้าน เอกสารต่างๆ รวมถึงการเป็นตัวกลางในการติดต่อประสานงานขององค์กรซึ่งรองรับตามระบบ คุณภาพมาตรฐาน ISO9000 และ ISO2000 โดยเริ่มจากเมื่อได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้า จนกระทั่งมีการจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้า JiniCommerce จะส่งข้อมูลไปตามกระบวนการการ ทำงานจนกระทั่งสิ้นสุดกระบวนการ ตัวอย่างเช่นเมื่อมีการผลิตสินค้าเสร็จ ระบบจะจัดส่ง ข้อมูลต่อไปยัง Distributor เพื่อแจ้งให้ทราบและดำเนินการจัดส่ง รวมถึงการแจ้งไปยัง ลูกค้าเพื่อทราบซึ่งการดำเนินธุรกรรมขององค์กรที่รวมไว้ที่เดียวกันนี้เราเรียกว่า JiniCommerce Core
เป็นลักษณะของการดำเนิน ธุรกิจร่วมกันระหว่างองค์กร ( Community ) ซึ่งใน กลุ่มการทำธุรกิจของชาวเอเชียนั้น แม้ว่าจะทำธุรกิจเหมือนกันแต่ก็มียังมีการช่วยกัน อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการขอซื้อหรือขอยืมวัตถุดิบชั่วคราว หรือแม้แต่ในปัจจุบัน การทำธุรกิจของสังคมโลก มีการแข่งขันกันสูง ทำให้หลายคนต้องทำธุรกิจที่ชำนาญเฉพาะด้าน แล้วมาร่วมประกอบกันเข้าเป็นสินค้า ทำให้ต้องการเครื่องมือที่จะช่วยกันประสานการทำ ธุรกิจให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการหารายได้เข้าสู่องค์กร
ประกอบด้วย
1. ผู้กระจายสินค้า ( Distributor หมายถึง ตัวแทนจำหน่ายสินค้า, ผู้จัดส่งสินค้า )
หมายถึงบริษัทที่เป็นตัวกลาง เพื่อนำสินค้าถึงมือลูกค้า โดยระบบจะเสมือนหนึ่ง Distributor ในการจำหน่าย หรือส่งมอบสินค้า ใดสินค้าหนึ่ง จะเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร หรือแผนกหนึ่งขององค์กร ทั้งนี้เพื่อจะได้ทราบว่า Distributor ใดบางมีสินค้าเหลืออยู่ ในมือที่จะจัดส่งให้ลูกค้าได้เร็วที่สุด
โดยที่ลูกค้าอาจจะเป็นผู้เลือก Distributor ที่จะจัดส่งสินค้าเอง โดยกำหนดเงื่อนไขในการคัดเลือกผู้จัดส่งสินค้า แล้ว JiniCommerce จะแจ้งไปยัง Distributor นั้นๆ เพื่อเตรียมการในการจัดส่ง พร้อมทั้งแจ้งกลับไปยังลูกค้า รวมถึงในขณะที่ Distributor ดำเนินการจัดส่ง JiniCommerce จะแจ้งหรือติดต่อกลับไปยัง ลูกค้าทุกครั้งที่มีการดำเนินการหรือเปลี่ยนแปลง
2. ดูแล Distributor
เป็น Module ในการเตรียมข้อมูลเพื่อให้องค์กรนั้นๆ ที่ติดต่อกับ Distributor สามารถที่จะตรวจสอบและติดตามการทำงานของ Distributor ในการจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้เสมอ รวมถึงการตรวจสอบสินค้าหรือวัตถุดิบคงเหลือ เพื่อประมาณการจะสั่งซื้อแจ้งให้ผู้ขายทราบเป็นระยะ หรือการตรวจสอบผู้ขายใด มีสินค้าหรือวัตถุดิบเพียงพอต่อการสั่งซื้อ
เป็นลักษณะของการดำเนินธุรกิจการขายปลีก เป็นการสั่งซื้อสินค้าหรือบริการ ผ่านทางเครือข่าย Internet ผู้ทำกิจกรรมสามารถหาสินค้าและบริการที่ถูกใจได้มาก อีกทั้งยังทำให้ลดคนกลางซึ่งเป็นผลทำให้ราคาสินค้าและบริการถูกลง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการหารายได้เข้าสู่องค์กรเช่นเดียวกับธุรกิจแบบ B2B
นอกจากนี้ B2C ยังรวมถึงระบบการทำงานในส่วนของ Front Office หรือระบบการบริการ ส่วนหน้าของธุรกิจต่างๆ ให้สามารถติดต่อกับธุรกิจสาธารณะ (Commerce) แล้วมีการตอบสนอง ได้ในทันทีทันใด เช่นการจองการพบแพทย์ การติดตามผลการตรวจรักษา โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้อง เดินทางไปเอง เป็นต้น แต่การเข้าดูข้อมูลดังกล่าวนั้นจะต้องมีผู้มีอำนาจอนุมัติในการ เข้าระบบงานดังกล่าวเสมอ
B2C ประกอบด้วย
1. Shopping
เสมือนเป็นห้องแสดงสินค้าบน Internet ลูกค้าสามารถติดต่อกับผู้ขายทุกราย สามารถ ทำธุรกรรมต่างๆ ได้จากที่บ้าน และยังสามารถสอบถามสถานะของเอกสารต่างๆ จาก ผู้ขายได้ในทุกกระบวนการการผลิต
2. การบำรุงรักษาและบริการหลังการขาย
- การบริการตามคำขอของลูกค้า
หมายถึงการให้บริการหลังการขายตามสัญญาที่ได้ตกลงกันไว้หรือตามคำขอของลูกค้า โดยระบบจะทำการบันทึกข้อมูลของการให้บริการ ผู้ให้การบริการและสิ่งที่ได้ทำการบริการ เพื่อเก็บเป็นประวัติในการบริการของลูกค้าต่อไปโดยในทุกขั้นตอน รวมถึงการ Confirm กำหนดการ Maintenance สิ่งที่ได้ทำการ Maintenance รวมถึงการจบการ Maintenance . จะมีการติดต่อกับทางลูกค้าตลอดเวลา
- การบริการตอบปัญหาตามกระทู้
หมายถึงการให้บริการในการตอบปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับระบบ JiniCommerce Module อื่นๆ โดยผู้ที่ต้องการที่จะเข้าตรวจสอบหรือสอบถามปัญหาต่างๆ จะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการ ขอสิทธิในการขอรับบริการตอบปัญหาตามกระทู้เพื่อขอรหัสผ่านก่อน
- บริการตอบปัญหาโดยระบบ Expert System & Simulation
หมายถึงการให้บริการตอบปัญหาต่างๆ ด้วยระบบ Expert System และระบบของการแสดง ภาพสินค้าที่ผู้ต้องการสอบถามเพื่อให้ผู้ที่สอบถามและผู้ตอบคำถามสามารถเห็นภาพได้ ตรงกันและช่วยให้การแก้ปัญหาต่างๆ ถูกต้องและรวดเร็ว รวมถึงการแก้ปัญหาที่ตรงจุดมากขึ้น
ผู้ใช้บริการจะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม ค่าบริการการบริการหลังการขาย ตามเวลาที่ กำหนด หลังจากนั้นจึงจะเสียค่าบริการ โดยผู้ใช้สามารถใช้ Application ที่สามารถทำงาน บน Browser ผ่านเครือข่าย Internet เพื่อดูภาพของสินค้าในลักษณะ 3D Simulation เพื่อให้ลูกค้าสามารถสอบถาม และชี้จุดของปัญหาที่เกิดขึ้น
ระบบบริหารงานส่วนหน้า หมายรวมถึงระบบโรงแรม และ ระบบโรงพยาบาล ซึ่งระบบโรงพยาบาลจะประกอบด้วยส่วนของระบบห้องยาเพิ่มเติมจากส่วนของระบบโรงแรม ประกอบด้วย
1. ระบบการจองและนัดหมาย (Reservation & Appointment System)
2. ระบบต้อนรับและเวชระเบียน (Registration System)
3. ระบบบันทึกค่าใช้จ่าย (Folio & Order System)
4. ระบบห้องยา (Pharmacy System)
5. ระบบการเงิน (Cashier System)
6. ระบบแม่บ้าน (Housekeeping System)
ระบบการจองและนัดหมาย (Reservation & Appointment System)
ระบบการจองห้องพัก เป็นโปรแกรมพวกระบบผู้เชี่ยวชาญ (Expert System ) จะตรวจสอบ ประเภท ห้องพัก กลุ่มประเภทห้องพัก และการปรับเปลี่ยนประเภทห้องพัก ให้ยืดหยุ่น ในการทำธุรกิจโรงแรม ให้เหมาะสำหรับงานบน e-commerce ซึ่งผู้จองห้องพักสามารถจองห้องพักแบบ real-time
ระบบการจองห้องพักอนุญาตให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบราคา ประเภทห้องพัก
ระบบจะตรวจสอบให้ทันทีตามเงื่อนไขต่างๆ ที่ผู้จองระบุเพื่อแจ้งให้ผู้จองทราบว่า มีห้องพักว่างหรือไม่
ระบบจะอัตโนมัติส่งจดหมายยืนยันกลับไปให้ลูกค้าเมื่อมีห้องพักว่างพอ แต่ถ้าไม่พอระบบจะเก็บข้อมูลไว้ใน Wait List และเมื่อมีห้องว่างระบบจะส่งจดหมายแจ้ง ให้กับลูกค้าทราบเพื่อยืนยันการเข้าพัก
ลูกค้าสามารถแจ้งความต้องการเพิ่มเติม ตรวจสอบส่วนลด และโปรโมชั่น รวมถึงสามารถทราบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นได้ในขณะที่จองห้องพัก
ผู้นัดสามารถตรวจสอบวัน-เวลาว่างของบุคคลที่จะนัดและลงเวลาการนัดได้ล่วงหน้า
ระบบช่วยตรวจสอบให้อัตโนมัติว่าบุคคลที่นัดเช่นแพทย์ในแต่ละช่วงเวลามีการนัดที่ เกินความสามารถที่ผู้นัดจะรับนัดได้หรือไม่ (Work Load)
ระบบต้อนรับ & เวชระเบียน (Registration System)
สามารถดึงข้อมูลจากการจองมาแสดงโดยอัตโนมัติเมื่อมีการลงทะเบียน
สามารถตรวจสอบประเภทห้องพัก โดยระบบจะตรวจสอบให้ทันทีด้วยเงื่อนไขต่างๆ ตามที่ระบุ
ระบบสามารถแจ้งค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นให้ผู้เข้าพักรับทราบได้ในขณะที่ลงทะเบียนเข้าพัก
สามารถตรวจสอบส่วนลด และโปรโมชั่น
ระบบสามารถตรวจสอบวงเงินเครดิตของลูกค้าได้ทันทีในกรณีที่ลูกค้ามีวงเงินเครดิตอยู่ รวมถึงการเก็บบันทึกข้อความต่างๆ ของแขกที่เข้าพัก
สามารถบันทึกค่ามัดจำของลูกค้าได้ทันที
มีการเชื่อมโยงข้อมูลค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างแผนกต้อนรับ แผนกแม่บ้าน และแผนกการเงิน โดยมีการสร้างใบแจ้งหนี้ให้กับลูกค้าทราบ และส่งข้อมูลต่อไปยัง แผนกการเงินต่อไป
บันทึกข้อมูลเบื้องต้นของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาเพื่อเตรียมข้อมูลส่งไปยัง แพทย์ผู้ตรวจต่อไปเช่นข้อมูลอาการเบื้องต้นที่มาพบแพทย์ โรคประจำตัว ประวัติการ แพ้ อุณหภูมิร่างกาย ความดันเลือด อัตราการเต้นของหัวใจและชีพจร เป็นต้น
ระบบบันทึกค่าใช้จ่าย (Folio & Order System)
สามารถตรวจสอบระดับสต๊อกเช่นยา ราคาต่อหน่วยจากตารางการขาย
ระบบไม่อนุญาตให้มีการขายที่ต่ำกว่าราคาในตารางการขาย นอกจากจะมีผู้อนุมัติ ในการขายแต่ละครั้ง
ระบบอนุญาตให้กำหนดระดับการอนุมัติได้หลายระดับหรือการอนุมัติจากผู้มีอำนาจมากกว่า 1 คนขึ้นไป
ระบบจะตรวจสอบเครดิตของลูกค้าให้อัตโนมัติเมื่อมีการทำธุรกรรมกับลูกค้ารายนั้นๆ ซึ่งถ้าลูกค้ามีเครดิตต่ำกว่าที่ตั้งไว้ระบบจะไม่อนุญาติให้มีการทำธุรกรรมนอกจากมี ผู้อนุมัติในแต่ละครั้ง
ระบบจะอัตโนมัติส่งข้อมูลไปยังระบบลูกหนี้ และระบบบัญชี
ระบบห้องยา (Pharmacy System)
ระบบมีข้อมูลของยาที่สามารถทดแทนกันได้
มีข้อมูลการใช้ยาโดยแบ่งตามอายุของคนไข้ หรือข้อมูลอื่นๆตามที่กำหนด เพื่อเป็น ข้อมูลมาตรฐานที่จะพิมพ์ในฉลากยา
มีการบันทึกข้อมูลของแพทย์ผู้สั่งจ่ายยา เภสัชกรที่จ่ายยาเพื่อใช้ตรวจสอบในภายหลัง
ระบบสามารถกำหนดสินค้าได้ในลักษณะแบบ Tree ซึ่งแต่ละสินค้าจะมีความสัมพันธ์ซึ่งกัน และกันและมีคุณสมบัติของการสืบทอด
ระบบจะเตือนในท่านทราบเมื่อปริมาณสต๊อกยาลดลงถึงระดับที่ควรสั่งซื้อ
สามารถใช้ระบบ Barcode สำหรับควบคุมสินค้าในคลังได้
สามารถควบคุมสินค้าในคลังสินค้าได้ละเอียดถึงสถานที่เก็บยาย่อย
สามารถเลือกวิธีการคิดต้นทุนสินค้าในคลังได้หลายแบบได้แก่ Average, FIFO, LIFO, Moving Average ตามสินค้าและอัตโนมัติคำนวณต้นทุนสินค้าและค่าเสื่อมราคาของสินค้า แต่ละรายการ
สามารถโอนข้อมูลยาจากแผนกหนึ่งไปยังอีกแผนกหนึ่งหรืออีกคลังหนึ่งไปยังอีกคลังหนึ่งได้
ระบบการเงิน (Cashier System)
สามารถดึงข้อมูลมาจากการบันทึกค่าใช้จ่ายมาใช้ได้
ระบบไม่อนุญาตให้มีการแก้ไขราคาขายที่ต่ำกว่าราคาในตารางการขายนอกจากจะมีผู้อนุมัติ ในการขายแต่ละครั้ง
ระบบอนุญาตให้กำหนดระดับการอนุมัติได้หลายระดับหรือการอนุมัติจากผู้มีอำนาจมากกว่า 1 คนขึ้นไป
สามารถบันทึกการรับชำระได้หลายประเภทตามแต่จะกำหนดเช่นเงินสด บัตรเครดิต เป็นต้น
ระบบจะอัตโนมัติส่งข้อมูลไปยังระบบลูกหนี้ และระบบบัญชี
ระบบแม่บ้าน (Housekeeping System)
สามารถบันทึกค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นของลูกค้า การบันทึกอุปกรณ์ที่ใช้ใน แต่ละห้องเพื่อควบคุมการเบิก
สต๊อกสินค้า รวมถึงการบันทึกสถานะของห้องพักเช่น กำลังทำความสะอาดอยู่
เป็นการจัดเตรียมธุรกรรมเพื่อใช้ในการควบคุมนโยบายในการทำธุรกิจ ในลักษณะการประมูล ประกาศรับสมัครงาน หรือการโฆษณาประชาสัมพันธ์ พร้อมทั้ง ติดตาม และตรวจสอบ รวมถึงในส่วนของ CRM - Customer Relation Management ด้าน Marketing
นอกจากนี้ยังสามารถประเมินผลในการทำธุรกรรมต่างๆ ได้เช่น ผลสรุปของการประมูล จำนวน ของผู้เข้าชม Banner ต่างๆ ในการโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์
คือการวางแผนในการใช้ข้อมูล (Information) อย่างมีประสิทธิภาพ โดยนำเอาข้อมูลจากลูกค้าทุกรายที่ใช้ JiniMart ในส่วนของ ERP (Enterprise Resource Planning ) และ ECP (Enterprise Commerce Planning) มาวิเคราะห์ แล้วนำเอาผลลัพธ์ที่ได้มาทำ Simulation ให้กับผู้บริหารของแต่ละองค์กร เพื่อที่ผู้บริหารจะนำไปใช้ในการปรับปรุงองค์กรของตนเอง โดยข้อมูลของแต่ละองค์การ (หรือที่เรียกว่า Data Private) ก็ยังคงเป็นความลับขององค์กรนั้นๆ อยู่เสมอ
นอกจากข้อมูลจาก JiniMart ในส่วนของ ERP ( Enterprise Resource Planning ) และ ECP ( Enterprise Commerce Planning ) แล้ว EIP ยังสามารถนำข้อมูลทาง ด้านเศรษฐศาสตร์ทั้งในด้านเศรษฐศาสตร์มหภาค (ซึ่งเป็นข้อมูลทางด้านพฤติกรรม การบริโภคตามลักษณะและคุณภาพของผลิตภัณฑ์) และเศรษฐศาสตร์จุลภาค (ซึ่งเป็นข้อมูลทางด้านธุรกิจ ในเชิงธุรกิจขาขึ้น หรือธุรกิจในเชิงขาลง ตาม ลักษณะของธุรกิจ) มาใช้
เป็นระบบที่ช่วยในการแก้ไขและประเมินผลโดยใช้ลักษณะของภาษาที่เป็นข้อความ (Description Language) มาเป็นเงื่อนไขในการแก้ไขปัญหา หรืออาจนำข้อมูล (Information) ที่ได้รับจาก Transaction ในการดำเนินธุรกรรมนำมาย้อนกลับเพื่อช่วย ในการแก้ปัญหา หรือที่เรียกว่า Feedback Control Process
เป็นระบบที่นำข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับจากผู้ใช้จากระบบ ERP Enterprise Resource Planning และ ECP Enterprise Commerce Planning มาประเมินผล เพื่อสรุปหาผลลัพธ์ อันเกิดจากการดำเนินธุรกรรมต่างๆ ของลูกค้า
เป็นระบบที่จำลองสถานการณ์ของผลลัพธ์ ที่เกิดจากการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับจาก ERP Enterprise Resource Planning และ ECP Enterprise Commerce Planning มาทดลองการทำงานแล้ว นำมาประเมินผลเพื่อใช้เป็นข้อมูลให้กับผู้บริหารในการปรับปรุงองค์กรต่อไป
ข้อมูลทางด้านพฤติกรรมการบริโภค ตามลักษณะและคุณภาพของผลิตภัณฑ์
ข้อมูลทางด้านธุรกิจ ในเชิงธุรกิจขาขึ้น หรือธุรกิจในเชิงขาลง ตามลักษณะของธุรกิจ โดยดูจากอัตราการเจริญเติบโต หรืออัตราการขายสินค้า